การตัวเองให้ดูดี นอกจากเสื้อผ้าหน้าผมแล้วโดยเฉพาะเหล่าสาว ๆ ที่เริ่มก้าวสู่เลขสาม ขึ้นหลักสี่ ไปจนถึงเลขห้า การ ร้อยไหม ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยกระชากวัย โดยการทำให้มีใบหน้าที่เต่งตึง เป็นสิ่งที่กำลังฮอตฮิตเลยทีเดียว
สารบัญ
- ร้อยไหม คืออะไร
- ชนิดของไหม
- ใครเหมาะกับการร้อยไหม
- ร้อยไหม อยู่ได้นานแค่ไหน
- ข้อดี – ข้อเสียของการร้อยไหม
ร้อยไหม คืออะไร
การร้อยไหมเป็นวิธียกกระชับผิวที่ใช้ได้ทั้งกับผิวหน้าและผิวกาย เพียงแต่นิยมใช้กับผิวหน้ามากกว่า ช่วยแก้ปัญหาผิวหนังบนใบหน้าหย่อนคล้อย ริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณแก้ม ร่องจมูก ขากรรไกร หน้าผาก โดยใช้ไหมละลายจำนวนหลายเส้นร้อยเข้าไปในใต้ผิวหนัง การทำเช่นนี้ส่งผลให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อใต้ผิวและมีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่บริเวณรอบเส้นไหม ทำให้ผิวหน้าถูกดึงรั้งจนเต่งตึง ทั้งยังช่วยให้เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงผิวหนังบริเวณดังกล่าวมากขึ้น
ชนิดของไหม
ไหมที่ใช้ในหัตถการนี้มีหลายชนิด แต่ที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือไหมละลาย PDO ทำจากโพลีไดออกซาโนน (Polydioxanone) ซึ่งใช้ในการเย็บแผลผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจ มักไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และได้รับการรับรองความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และไม่ต้องเป็นกังวลว่าเส้นไหมเหล่านี้จะติดอยู่ใต้ผิวหนัง เพราะไหมจะค่อย ๆ สลายตัวไปเองภายใน 8 เดือน
ใครเหมาะกับการร้อยไหม
การยกกระชับผิวหน้าด้วยวิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 30-60 ปีขึ้นไป โดยเนื้อเยื่อต้องไม่ยุบตัวหรือผิวหนังต้องไม่หย่อนคล้อยมากเกินไป เพราะหากผิวหนังหย่อนมากเนื่องจากอายุหรือมีน้ำหนักตัวมาก อาจต้องใช้วิธีนี้ร่วมกับวิธีอื่น ๆ จึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
- ผู้ที่มีใบหน้าไม่เรียว กระชับ
- ผู้ที่มีแก้มเยอะ หรือแก้มหย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีริ้วรอย
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิว
6 วิธีการ ยกกระชับ ใบหน้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน >>>อ่านเลย<<<
ร้อยไหมอยู่ได้นานแค่ไหน
ผลลัพธ์ยกกระชับใบหน้าด้วยการร้อยไหม โดยผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 1-2 ปี และอาจเริ่มกลับมาหย่อนคล้อยเล็กน้อยหลังจาก 6 เดือนแรก ทำให้อาจต้องเข้ารับการร้อยไหมอีกครั้งเพื่อคงผลลัพธ์ให้ยาวนานยิ่งขึ้น โดยทั่วไปใบหน้าของผู้เข้ารับการร้อยไหมอาจบวมในตอนแรก และกลับมาดูเป็นปกติภายในประมาณ 24-48 ชั่วโมง แต่บางรายอาจปรากฏรอยพับหรือรอยย่นของผิวหนังเป็นเวลาหลายสัปดาห์ได้
อ่านเพิ่มเติม ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เติมเต็มใบหน้าให้เข้ากับรูปหน้า
ข้อดี – ข้อเสียของการร้อยไหม
ข้อดี
ข้อดีของการ ร้อยไหม คือ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่บวม ไม่ช้ำ เหมาะกับคนที่ ไม่มีเวลาพักฟื้น หรือคนที่กลัวการผ่าตัด เช่น การร้อยไหมจมูก จะขึ้นเป็นสันได้คมกว่าฟิลเลอร์ เหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้ว แค่ต้องการความคมชัดของสันจมูก หรือในคนที่สันจมูกสวยอยู่แล้ว แต่ต้องการยกแค่ปลายจมูกขึ้น สามารถใช้เทคนิควิธีร้อยไหมแบบพิเศษยกปลายขึ้นได้ มีความปลอดภัยมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์จมูก เพราะการฉีดฟิลเลอร์จมูก หากทำโดยแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดอาการตาบอด ที่เกิดจากฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันเส้นได้
นอกจากการ ร้อยไหมจมูก จะไม่เสี่ยงต่อการอุดตันเส้นเลือดของสารเติมเต็ม และไหมละลายสำหรับร้อยจมูกรุ่นล่าสุดก็อยู่ได้นาน 18 เดือน – 2 ปีและสามารถกระตุ้นให้ร่างกายเราสร้างเนื้อเยื่อจมูกของเราเองขึ้นมาได้ จึงเหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่บ้างแล้ว แต่ไม่อยากผ่าตัดเสริมจมูกด้วยซิลิโคน เพราะในกรณีที่มีฐานอยู่แล้ว ถ้าผ่าตัดเสริมจมูกด้วยแท่งซิลิโคน จะทำให้จมูกโด่งเกินไปดูไม่เป็นธรรมชาติ
ข้อเสีย
ข้อเสียของการ ร้อยไหม คือ การร้อยไหมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือความรู้สึกเจ็บและไม่สบายใบหน้า นอกจากนี้ อาจจะมีอาการบวม ฟกช้ำ เกิดการเคลื่อนตัวของไหม และติดเชื้อจากการใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาดหรือขั้นตอนที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม
หรือบางรายอาจมีรอยย่นของผิวหนังหลังการทำ ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้มักหายไปเองเมื่อผ่านไปหลายวัน แต่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษหากเกิดการติดเชื้อ เพราะอาจเกิดเชื้อดื้อยาและยากต่อการรักษา
ผลข้างเคียงจากการร้อยไหม อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
นอกจากนี้ การร้อยไหมอาจให้ผลดียิ่งขึ้นหากใช้วิธียกกระชับอื่น ๆ ร่วมด้วยในภายหลัง โดยเฉพาะวิธีที่ไม่ใช้การศัลยกรรมซึ่งจะให้ผลดีมากกว่า หรืออาจใช้กับผู้ที่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดยกหน้าไปแต่ยังไม่พร้อมสำหรับการผ่าตัดครั้งต่อไป ในกรณีนี้อาจเลือกการร้อยไหมแทนได้เช่นกัน
หากท่านใดสนใจการร้อยไหม ทาง Thaitop ได้จัดอันดับคลินิกร้อยไหมจมูก จมูกโด่งสวยโดยไม่ศัลยกรรมทีดีที่สุด ปี2020
>> คลิ๊ก <<