ข้อดีของการกินขนมหวานที่มีน้ำตาลเยอะๆ คือ อร่อย คลายเครียด สาวๆ หลายคนถึงรักการกินของหวานเวลาที่เครียด หรือรู้สึกไม่สบายใจ ก็จะนึกถึงแต่ขนมหวาน แต่รู้หรือไม่? การกินน้ำตาลมากเกินไป ระวังผิวจะเหี่ยว และ แก่ก่อนวัยนะ !
เพราะว่าน้ำตาลเป็นตัวทำลาย “คอลลาเจน” ในชั้นผิว พอคอลลาเจนถูกทำลาย ผิวเราก็จะยืดหยุ่นน้อยลง และเกิดริ้วรอยมากขึ้น น้ำตาลมีฤทธิ์ทำลายคอลลาเจนได้ ก็เพราะว่าพอน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายเราจะทำให้เกิดกระบวนการที่ทำให้น้ำตาลในเลือดไปจับตัวกับโปรตีน ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า AGEs (advanced glycation end products) ที่เข้าไปทำลายเส้นใยคอลลาเจนที่มีหน้าที่รักษาความกระชับและความยืดหยุ่นของผิวหนัง ส่งผลให้ผิวเราแห้ง หย่อนคล้อย และเกิดริ้วรอย
นอกจากนี้ AGEs ยังทำให้สารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายเราลดน้อยลง ทำให้ผิวเราโดนทำร้ายจากแสงแดดได้ง่ายขึ้น ถือว่าส่งผลร้ายยกกำลังสองเลย
ของหวานไม่ได้แค่ทำให้หน้าเหี่ยวอย่างเดียว ยังทำให้เกิด “หน้ามัน” เพราะ ยิ่งปริมาณน้ำตาลในเลือดสูง =>ปริมาณอินซูลินก็ยิ่งสูง ซึ่งยิ่งอินซูลินสูงเท่าไหร่ ต่อมไขมันก็จะยิ่งผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเท่านั้น และอย่างที่รู้กัน ความมันบนหน้าคือของโปรดของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว อีกทั้งผิวยังมีโอกาสอุดตันได้ง่ายกว่าเดิม
เป็นสาเหตุให้เกิดอาการอักเสบในร่างกาย และอาการอักเสบใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นกับผิว ไม่ว่าจะสิว และผื่นแพ้แดงต่างๆ น้ำตาลนอกจากจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นแล้ว ยังดูดน้ำออกจากเซลล์ผิวด้วย เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวเราขาดน้ำ ดูแห้ง หน้าบวม และยังทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาที่ดูแย่มากๆ
ปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกาย และไม่ทำให้เกิดปัญหาผิวก็คือ
- ผู้ชาย: ไม่ควรกินเกิน 37.5 กรัม หรือ 9 ช้อนชาต่อวัน
- ผู้หญิง: ไม่ควรกินเกิน 25 กรัม หรือ 5 ช้อนชาต่อวัน
ปริมาณน้ำตาลที่มากเกินไปนอกจากจะทำให้เราเป็น เบาหวาน ภาวะอ้วนลงพุง ภาวะไขมันพอกตับ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคเกาต์ กรดยูริคในเลือดสูง ฟันผุ ไปจนถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ และหลอดเลือดทั้งหมด แถมยังส่งผลเสียต่อผิวพรรณ ทำให้ผิวเหี่ยวย่น และดูแก่ก่อนวัยอีกด้วย