หลายๆ คนอาจจะสงสัยอยู่ในใจว่า หลังฉีดฟิลเลอร์ สามารถนอนท่าไหนได้บ้าง ? สามารถนอนตะแคง นอนคว่ำได้ไหม ? หรือจำเป็นต้องนอนหงายเพียงอย่างเดียว มาหาคำตอบกันได้ที่บทความนี้ โดยภายหลังรับการรักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ หรือสารกลุ่มไฮยารูลอนิกแอซิด เพื่อเติมเต็มในการปรับรูปหน้าหรือปรับคุณภาพผิวให้ดีขึ้น อาจจะมีข้อห้ามบางประการ ที่แพทย์แนะนำให้ทำหรือหลีกเลี่ยง แต่อาจจะมีคำถามหนึ่งที่แพทย์อาจจะไม่ได้กล่าวถึง
หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกดทับบริเวณที่ฉีด
ทราบกันอยู่แล้วว่าการฉีดฟิลเลอร์นั้น ไม่ต้องพักฟื้น โดยปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ช่วงแรก บริเวณที่ทำการรักษาไปอาจมีอาการเจ็บตึง จากการขยายตัวของผิวและการเพิ่มปริมาตร จึงไม่แนะนำให้กด นวด บริเวณที่ได้รับการฉีดฟิลเลอร์ แต่ถ้าหากเป็นเรื่องท่านอนแล้ว จริงๆ ไม่ได้มีข้อห้ามตายตัว ว่าหลังการฉีดฟิลเลอร์ห้ามนอนท่าไหนเป็นพิเศษ แต่ถ้าเราไปกดทับโดน ก็อาจจะทำให้เกิดอาการเจ็บมากยิ่งขึ้นได้ ส่วนตำแหน่งของฟิลเลอร์บริเวณที่ไม่ควรกดทับ
โดยการนั่งเท้าคางหรือนอนคว่ำหน้า คือ ฟิลเลอร์คาง และ ฟิลเลอร์จมูก เพราะเป็นตำแหน่งที่ต้องการให้มีความพุ่ง เนื้อฟิลเลอร์ขึ้นรูปทรงสวยงาม ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการกดทับเป็นเวลานานบริเวณดังกล่าว ภายหลังการฉีดฟิลเลอร์เป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ ฟิลเลอร์จะเริ่มกลืนเข้ากับเนื้อเยื่อปกติของผิวเรา ทำให้ ไม่มีการเปลี่ยนรูปทรง ไม่เสียรูป ดังนั้นหลังจากช่วงเวลานี้ไป ก็สามารถนั่ง นอน ได้ทุกท่าไม่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ตำแหน่งไหนมาก็ตาม
ถ้าฉีดไขมัน ต้องระวังเรื่องท่านอน
ซึ่งในเรื่องของท่านอนนี้จะมีผลอย่างมากเมื่อเป็นการปรับรูปหน้าด้วยการเติมเต็มไขมัน เพราะการฉีดไขมัน สเต็มเซลล์จะค่อนข้างไวต่อแรงกดทับ แรงกดที่มากและนาน จะทำให้สเต็มเซลล์ของไขมันตาย และส่งผลให้ปริมาตรไขมันที่เติมเข้าไปนั้น เกิดการเปลี่ยนแปลงยุบตัวลง หรือ Fat loss นั่นเอง ดังนั้นถ้าสาวๆเลือกการปรับรูปหน้าด้วยการฉีดไขมันตนเอง บอกเลยว่าต้องนินหงายอย่างเดียว ห้ามเอียง ห้ามตะแคง หรือนอนดิ้นเด็ดขาด เป็นเวลาอย่างน้อย 1-3 เดือน เพื่อให้แน่ใจว่าสเต็มเซลล์ไขมันนั้นติดดีก่อนจึงจะเปลี่ยนท่านอนได้
สรุป
จะเห็นว่าการฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้านั้นสบาย และง่ายต่อการพักฟื้นมากกว่าเห็นๆ และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้สาวๆหลายคนหลงรักการปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์มากกว่าการเติมไขมัน