ภาวะ มดลูกหย่อน ทำให้เกิดอาการผิดปกติต่างๆ ตามมา เช่น ปวดถ่วงท้องน้อยในเวลาปกติหรือในขณะมีเพศสัมพันธ์ รู้สึกว่ามีก้อนมาจุกหรือมีส่วนนูนยื่นออกมาจากปากช่องคลอด ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นส่วนของผนังช่องคลอด, ปากมดลูก หรือส่วนอื่นๆ ของ มดลูกหย่อน ผ่านช่องคลอดต่ำลงมา หรือมีอาการ ไอจามปัสสาวะเล็ด กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะบ่อย หากมีการหย่อนของมดลูกมากๆ จะทำให้มีอาการปวดถ่วงท้องน้อย ปวดหลัง ปวดท้องขณะมีประจำเดือน รวมถึงมีผลต่อการระบายของรอบเดือน โดยอาการจะมากหรือน้อยขึ้นกับระดับความรุนแรงของการหย่อนยาน
โดยปกติแล้ว หากมีอาการ มดลูกหย่อน แพทย์จะทำการรักษาโดยการตัดมดลูกออกทางช่องคลอดหรือผ่าตัดมดลูกออกทางด้านหน้าท้อง แต่ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกโดยไม่จำเป็นต้องตัดมดลูกออกคือ การผ่าตัด ยกมดลูก (Suprapubic Uterine Suspension) เพื่อเลื่อนมดลูกและปากมดลูกกลับสู่ตำแหน่งปกติ
การผ่าตัดยกมดลูกนี้พิจารณาทำในคนที่ไม่ต้องการมีลูกแล้ว เพราะถึงแม้จะสามารถตั้งครรภ์ได้ แต่การยกมดลูกอาจรบกวนการขยายตัวของมดลูก ทำให้การตั้งครรภ์เป็นไปโดยไม่ราบรื่นได้ การผ่าตัด ยกมดลูก เป็นการผ่าตัดทางหน้าท้อง โดยแผลผ่าตัดจะอยู่ในแนวขวางเหนือระดับกระดูกหัวหน่าว สำหรับผู้ที่เคยผ่านการผ่าตัดทางช่องท้องและมีแนวแผลในแนวตั้งมาก่อน จำเป็นต้องผ่าตัดแผลในแนวตั้งระดับใต้สะดือ
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัดช่องคลอด แก้ไขปัญหา มดลูกหย่อน ได้แก่ ภาวะเลือดออก ภาวะแผลติดเชื้อ ความเจ็บปวดหลังการผ่าตัด การแพ้ยาหรือสารอื่นๆ ที่ใช้ในการผ่าตัด การเกิดตกขาวมากผิดปกติ หรือการเกิดเชื้อราในช่องคลอด รวมทั้งภาวะแทรกซ้อนจำเพาะของการผ่าตัดตกแต่งปากช่องคลอด ได้แก่ ภาวะปัสสาวะลำบาก หรือปัสสาวะไม่ออกหลังการผ่าตัด การเกิดรูรั่วระหว่างลำไส้ใหญ่กับปากช่องคลอด หากมีอาการผิดปกติหลังผ่าตัดให้รีบกลับมาพบแพทย์โดยด่วน