การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นกระบวนการศัลยกรรมเพื่อความงามที่ใช้เทคนิคในการดูดไขมันส่วนเกินในชั้นใต้ผิวหนังออกจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งเป็นจุดที่ลดไขมันได้ยากแม้ว่าจะควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้วก็ตาม โดยทั่วไปการดูดไขมันมีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน คือวิธีแบบดั้งเดิมโดยการใช้การดมยาสลบ และวิธีปัจจุบัน โดยการดูดไขมันด้วยเทคนิค Tumescent หรือการใส่ยาชาและน้ำเกลือที่เนื้อเยื่อไขมัน ซึ่งเป็นวิธีการดูดไขมันวิธีหลักที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเลือกใช้จนถึงทุกวันนี้
อ่านเพื่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อนี้
ใครบ้างที่เหมาะกับการดูดไขมัน
การเตรียมความพร้อมก่อนการดูดไขมัน
การดูแลหลังการดูดไขมัน
ระยะเวลาในการพักฟื้น
ขั้นตอนการดูดไขมัน
การศัลยกรรมดูดไขมันหน้าท้อง เป็นการดูดเอาไขมันที่ไม่ต้องการในบริเวณหน้าท้องออกด้วยท่อขนาดเล็กและอุปกรณ์สุญญากาศ โดยจะทำการดูดไขมัน ขั้นตอนหลัก ๆ ของการดูดไขมัน ได้แก่
ฉีดสารละลายน้ำเกลือ (Saline) ซึ่งประกอบด้วยยาชาและอะดรีนาลีนเข้าไปในเนื้อเยื่อไขมันเพื่อช่วยระงับความรู้สึกและลดการเสียเลือด ข้อดีของการดูดไขมันด้วยเทคนิคนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย ช่วยให้สามารถเอาไขมันออกมาได้ง่าย และช่วยลดความรู้สึกไม่สบายต่าง ๆ หลังขั้นตอนการดูดไขมัน นอกจากนั้นยังช่วยลดรอยช้ำและบวม
แพทย์จะใส่ท่อขนาดเล็กลงในเนื้อเยื่อไขมัน และใช้อุปกรณ์สุญญากาศดูดไขมันในบริเวณที่ต้องการ
และหลังจากทำเสร็จแล้ว แพทย์จะปิดรอยแผลบริเวณที่ดูดไขมันและให้คนไข้สวมชุดกระชับสัดส่วนเพื่อช่วยลดอาการบวมและทำให้แผลหายได้ง่ายยิ่งขึ้น
ใครบ้างที่เหมาะกับการดูดไขมันหน้าท้อง
การดูดไขมันหน้าท้อง เหมาะสำหรับผู้ที่มีรูปร่างและน้ำหนักตัวที่ปกติแต่ต้องการที่จะมีสัดส่วนที่ดีขึ้นหรือต้องการที่จะมีสัดส่วนในแบบที่ต้องการ มีไขมันสะสมในบริเวณที่กำจัดได้ยากแม้จะมีการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารแล้วก็ตาม ซึ่งการดูดไขมันหน้าท้องไม่ได้เป็นการรักษาโรคอ้วน และก็ไม่เหมาะกับคนที่อ้วนมากๆอีกด้วย
การเตรียมความพร้อมก่อนการดูดไขมัน
ก่อนจะทำการดูดไขมันหน้าท้อง ต้องมีการปรึกษาพูดคุยกับศัลยแพทย์ถึงความคาดหวังและเป้าหมายของการศัลยกรรมดูดไขมันครั้งนี้ มีการตรวจสอบประวัติและตรวจสอบทางการแพทย์ต่าง ๆ และบอกกับศัลยแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา การใช้ยารักษาโรค อาหารเสริม หรือมีการใช้สมุนไพรชนิดใดหรือไม่
การดูแลตัวเองหลังการดูดไขมัน
การดูดไขมันนั้นมีผลถาวรสำหรับไขมันที่ดูดออกไปแล้ว อย่างไรก็ตามก็สามารถมีไขมันเพิ่มมาได้ใหม่ หรือมีน้ำหนักเพิ่มได้อีก หากไม่ดูแลการรับประทานอาหารหรือการออกกำลังกายที่ดี หากต้องการผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ต้องควบคุมการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมต่อไป หลังจากขั้นตอนการดูดไขมันเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ศัลยแพทย์อาจให้สวมใส่ชุดกระชับสัดส่วนเป็นเวลาประมาณ 1-2 เดือน เพื่อช่วยในการควบคุมอาการบวมที่เกิดขึ้น และอาจต้องรับประทานยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นในบางราย
ระยะเวลาในการพักฟื้น
โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ที่เข้ารับการดูดไขมันหน้าท้องจะสามารถกลับมาทำงานได้ภายในไม่กี่วัน และสามารถกลับมาทำกิจกรรมหรือใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติภายใน 2 สัปดาห์ แต่ระยะเวลาจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล[/vc_column_text][/vc_column][vc_column width=”1/3″][vc_widget_sidebar sidebar_id=”sidebar-1″][vc_widget_sidebar sidebar_id=”rhcustomsidebar”][/vc_column][/vc_row]